Custom Search

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

แต่งหน้าสาว สไตล์สาวอาหรับ


ข้อมูลเพิ่มเติ่ม10 ขั้นตอนการแต่งหน้า
Skincare
ครีมบำรุงผิวคือสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้ผิวของคุณดูมีสุขภาพดี  การลดน้ำหนักสภาพอากาศ และความเครียดคือตัวการทำลายผิวที่คุณต้องประสบอยู่ทุกวันดังนั้นลองปรับนิสัยในการดูแลผิวของคุณเสียใหม่ให้ถูกต้อง

Moisturizer ช่วยให้ผิวดูสดชื่นสุขภาพดีและเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผิวก่อนเข้าสู่ขั้นตอนของการแต่งหน้าและอย่าลืมเติมน้ำให้กับผิวที่แสนบอบบางบริเวณรอบดวงตาด้วย Eye Cream เนื้อบางเบาสักกระปุก เพื่อมั่นใจว่าคอนซีลเลอร์ที่ลงหลังจากนั้นจะเรียบเนียนและสม่ำเสมอ
    
ขั้นที่ 1
Corrector/Concealer
สำหรับจุดที่คล้ำเป็นพิเศษบริเวณใต้ดวงตา ลองเริ่มต้นด้วย Corrector
เพื่อกลบรอยหมองคล้ำนั้นเสียก่อน โทนสีชมพูจะช่วยอำพรางรอยเขียวซ้ำ
และโทนสีพีชจะช่วยอำพรางรอยคล้ำม่วง

ขั้นต่อมา ใช้ Creamy Concealer โทนสีเหลืองที่สว่างกว่าผิวจริงสักหนึ่งเฉดมาปรับเพิ่มความสว่างให้กับบริเวณใต้ดวงตา  โดยใช้แปรง Concealer Brush ระบายเนื้อครีมให้ชิดแนวขนตาล่างและด้านในของหัวตาให้มากที่สุด จากนั้นจึงใช้นิ้วมือของคุณค่อยๆกดเบาๆจนกระทั่งคอนซีลเลอร์กลืนไปกับผิวใต้ดวงตา
    
ขั้นที่2
Foundation
เลือก Foundation  (รองพื้น) โทนสีเหลืองสัก 2-3 เฉดสี นำมาขีดที่ด้านข้างแก้มภายใต้แสงธรรมชาติ สีที่ใช่ที่สุดคือสีที่กลืนหายไปกับผิวหน้าของคุณ

ใช้นิ้วมือหรือฟองน้ำกับจุดที่ต้องการปกปิดเป็นพิเศษ (เช่นรอบๆจมูกและข้าง
ริมฝีปากที่มีรอยจ้ำแดง) และใช้แปรง Foundation Brush เกลี่ยรองพื้นให้ทั่วใบหน้าส่วนที่เหลือเพื่อความเป็นธรรมชาติ

ขั้นที่3
Powder/bronzer
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดคราบ ให้ไล้ Loose Powder (แป้งฝุ่น) เบาๆบนคอนซีลเลอร์ใต้ตา โดยใช้แปรง Eye Blender หรือ Mini Powder Puff ก็ได้   
ถ้าคุณมีผิวหน้ามันบริเวณช่วง T-Zone ให้ลงแป้งให้ทั่วบริเวณใบหน้าที่เหลือโดยใช้ Power Puff หรือแปรง Powder  Brush

เพื่อให้ผิวหน้าดูอบอุ่นขึ้น ลองไล้ Bronzing Powder อย่างบางเบาบริเวณแก้ม,หน้าผาก, จมูก และคาง โดยใช้แปรง Bronzer Brush
    
ขั้นที่ 4
Blush
ยิ้มที่หน้ากระจกและไล้ Blush (ปัดแก้ม) สีโทนธรรมชาติโดยใช้แปรง Blush Brush เกลี่ยตั้งแต่พวงแก้มเรื่อยไปตามโหนกแก้มจนสุดแนวไรผม แล้วจึงปัดไล่ย้อนลงในทิศทางเดิมเพื่อให้สีดูนุ่มนวลขึ้น

จากนั้นจึงใช้สีโทนสว่างปัดเบาๆซ้ำอีกครั้ง (เฉพาะพวงแก้มเท่านั้น) ทับสีโทนธรรมชาติ เพื่อให้บลัชออนติดทนนานตลอดวัน
    
ขั้นที่ 5
Lipstick/Gloss
เมื่อคุณต้องการ Lipstick ที่สามารถใช้ได้ทุกวัน ลองเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีริมฝีปากตามธรรมชาติของคุณ สีที่เหมาะสมกับคุณที่สุดคือสีที่เหมือนหรืออาจเข้มกว่าสีริมฝีปากของคุณเล็กน้อย

ขั้นที่6
Lip Liner
เพื่อความสวยอย่างเป็นธรรมชาติและป้องกันการซึมเลอะขอบปาก ให้วาดขอบ
ปากด้วย Lip Liner หลังจากทาลิปสติกเสร็จแล้ว โดยใช้แปรง Lip Brush เกลี่ยสีให้นุ่มนวลและทำให้เส้นขอบปากดูละมุนขึ้น
    
ขั้นที่ 7
Brow
เพื่อความเป็นธรรมชาติที่สุด ควรใช้ EyeShadow เติมสีที่คิ้วโดยเลือกสีที่ใกล้เคียงกับสีผมของคุณ โดยใช้แปรง Eye Brow Brush หรือถ้าคุณมีคิ้วที่บางมากให้ใช้แปรง Eye Definer Brush โดยเริ่มแตะสีจากหัวคิ้วด้านในและไล่ไปตามแนวเส้นคิ้วธรรมชาติ พยายามควบคุมน้ำหนักมือให้เบาที่สุด

ถ้าหากคิ้วที่เขียนเสร็จแล้วดูเป็นเส้นแข็งเกินไป สามารถทำให้นุ่มนวลขึ้นได้โดยใช้ Loose Powder (แป้งฝุ่น) กดทับไปที่คิ้วเบาๆด้วย Power Puff
    
ขั้นที่8
Eye Shadow
ไล้ Eye Shadow โทนสีอ่อนตั้งแต่แนวขนตาเรื่อยไปจนถึงบริเวณท้องคิ้ว โดยใช้แปรง Eye Shader Brush

จากนั้นใช้อายแชโดว์สีกลางระบายให้ทั่วตั้งแต่ชั้นพับตาล่างจนถึงกระบอกตา
โดยใช้แปรง Eye Shadow Brush
    
ขั้นที่ 9
Eye Liner
วาดเส้นที่ขอบตาด้านบน ด้วย Eye Shadow สีเข้ม โดยใช้ร่วมกับแปรง
 Eye Liner Brush และเพื่อให้ไดผลลัพธ์ที่ติดทนนานขึ้น ให้นำขนแปรงจุ่มน้ำและเช็ดหมาดๆก่อนแตะสีอายแชโดว์หรือจะใช้ Long-Wear Gel Eye Liner  ควบคู่ไปกับแปรง Ultra Fine Eye Liner Brush  ก็ได้
    
ขั้นที่ 10
Mascara
Mascara สีดำสนิทจะสร้างความโดดเด่นที่สุดให้กับดวงตาของคุณ ส่วนสีน้ำตาลจะทำให้ดวงตาของคุณดูอ่อนโยนขึ้นทุกครั้งที่ใช้มาสคาร่า ให้ปัดไล่จากโคนไปจนสุดปลายขนตา พร้อมทั้งหมุนหัวแปรงไปด้วยเพื่อให้ขนตาเรียงเส้นสวยงามและไม่จับเป็นก้อน


ถ้าคุณเลือกที่จะดัดขนตา จงมั่นใจว่าคุณได้ทำมันก่อนที่จะลงมือปัดมาสคาร่า
เพราะหากคุณดัดขนตาหลังจากปัดมาสคาร่าไปแล้ว นั่นอาจทำให้ขนตาของ
คุณหักหรือขาดได้
เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดยmenmen

รายการบล็อกของฉัน